Monday, April 6, 2015

Oral hypoglycemic drugs

Metformin เป็นยาเม็ดลดระดับน้ําตาลในเลือดที่ควรเลือกใช้เป็นขนานแรกสําหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ทุกรายที่ไม่มีข้อห้าม

พญ.ณัฐสุดา อ่วมแป้น
อ.ดร.พญ.วรรณรัศมี เกตุชาติ
ภาควิชาเภสัชวิทยา
อ.พญ.พัชญา บุญชญาอนันต์
ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

คำแนะนำ

  • Metformin เป็นยาเม็ดลดระดับน้ําตาลในเลือดที่ควรเลือกใช้เป็นขนานแรกสําหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ทุกรายที่ไม่มีข้อห้าม
  • ไม่ควรใช้ยากลุ่ม sulfonylureas เป็นยาเดี่ยวขนานแรกในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ยกเว้นเมื่อผู้ป่วยมีข้อห้ามใช้หรือไม่สามารถทนต่อ metformin ได้หรือใช้เป็นยาขนานที่สองร่วมกับ metformin

รายละเอียด

โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยถึงร้อยละ 6.9 ในประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป (จากรายงานการสํารวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2551 – 2552) โรคนี้เกิดขึ้นจากการขาดอินซูลิน หรือจากภาวะดื้ออินซูลิน หรือทั้งสองสาเหตุร่วมกัน ผู้ป่วยจะมีภาวะน้ําตาลในเลือดสูง ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้หลายชนิด เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง จอประสาทตาเสื่อม ไตเสื่อม แผลเรื้อรัง เป็นต้น

โรคเบาหวานมีหลายชนิด แต่ชนิดที่พบในผู้ใหญ่ส่วนมากเป็นชนิดที่ 2 มักพบในคนอายุ 30 ปี ขึ้นไป อาจไม่มีอาการหรือมีอาการ เช่น ปัสสาวะมาก กระหายน้ําบ่อย ดื่มน้ํามาก น้ําหนักลด เป็นต้น1 จะเริ่มการรักษาผู้ป่วยด้วยการแนะนําให้ควบคุมอาหารประเภทแป้งและน้ําตาล ออกกําลังกาย ถ้าไม่สามารถควบคุมระดับน้ําตาลในเลือดได้ด้วยการควบคุมอาหารและการออกกําลังกาย แพทย์จะเริ่มพิจารณาการใช้ยาเม็ดลดระดับน้ําตาลในเลือด เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานแล้ว

Metformin เป็นยาเม็ดลดระดับน้ําตาลในเลือดที่ควรเลือกใช้เป็นขนานแรกสําหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ทุกรายที่ไม่มีข้อห้าม2,3 ข้อห้ามใช้ยานี้คือในผู้ที่มีภาวะการทํางานของตับหรือไตบกพร่อง ยานี้ออกฤทธิ์ลดการสร้างน้ําตาลกลูโคสใหม่ในตับ และเพิ่มการนําเข้าและใช้กลูโคสในเนื้อเยื่อ อีกทั้งยังลดภาวะดื้อต่ออินซูลินด้วย ข้อดีของการใช้ metformin คือ มักไม่ทําให้เกิดภาวะระดับน้ําตาลต่ําในเลือด ผลข้างเคียงของยาชนิดนี้ คือ อาการคลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องอืด และท้องเสีย แนะนําให้มีการปรับขนาดยาขึ้นอย่างๆช้าๆเพื่อลดอาการข้างเคียง ยานี้มีส่วนช่วยให้น้ําหนักตัวคงที่และไม่เพิ่มมากขึ้นแต่ไม่มีฤทธ์เป็นยาลดน้ําหนัก

dmdrugsSulfonylurea เป็นกลุ่มยารักษาโรคเบาหวานอีกชนิดหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ตัวอย่างชื่อยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ glipizide, glibenclamide และ gliclazide มีหลักฐานว่าการใช้ยากลุ่มนี้เป็นยาเดี่ยวในการรักษาเบาหวานชนิดที่ 2 มีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่าผู้ป่วยที่ใช้ metformin เป็นยาเดี่ยวถึง 58%4 เมื่อเทียบกับการใช้ metformin เป็นยาเดี่ยว5ดังนั้นยากลุ่มนี้จึงไม่ใช่ยากลุ่มแรกที่ควรเลือกใช้เดี่ยวๆ โดยอาจใช้เมื่อผู้ป่วยมีข้อห้ามใช้ หรือไม่สามารถทนต่อ metformin ได้ หรือใช้เป็นยาขนานที่สองร่วมกับ metformin เมื่อไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ตามเป้าหมาย

นอกจากยา 2 ชนิดที่กล่าวมาแล้ว ยังมียาในการรักษาโรคเบาหวานอีกหลายชนิด ได้แก่ ยากลุ่ม thiazolidinedione, DPP-4 inhibitor, GLP-1 receptor agonist และ insulin

โดยสรุปแล้ว ยาแรกที่ควรเลือกใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน ถ้าไม่มีข้อห้ามใช้ คือ metformin เนื่องจากประสิทธิภาพในการลดน้ำตาลดีและมีความปลอดภัย มีการศึกษาสนับสนุนในเรื่องการลดโอกาสการเกิดโรคแทรกซ้อนและยังเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติที่ราคาไม่แพง ส่วนยากลุ่มอื่น แพทย์ผู้รักษาจะเลือกใช้ยาโดยพิจารณาจากประสิทธิภาพการลดระดับน้ำตาล ผลข้างเคียงของยา ข้อห้ามใช้ยา และผลในการเพิ่มหรือลดน้ำหนักตัวผู้ป่วย ผู้ป่วยควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารตรงเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะน้ำตาลต่ำ นอกจากนี้ยังควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เช่น ควบคุมอาหารประเภทแป้ง น้ำตาลและไขมัน งดสูบบุหรี่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ถ้าสามารถทำได้ดังนี้และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ตามเป้าหมาย โรคเบาหวานก็ไม่ใช่โรคที่น่ากลัวอีกต่อไป

อ้างอิง

  1. สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน พ.ศ.2554. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ศรีเมืองการพิมพ์ จำกัด, 2554.
  2. American Diabetes Association. Standards of Medical Care in Diabetes-2014. Diabetes Care 2014;37 Suppl 1:S14-80.
  3. พิสนธิ์ จงตระกูล. การใช้ยาอย่างสมเหตุผลเพื่อการจัดการโรคเบาหวาน ความดันเลือดสูง. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์วัฒนาการพิมพ์, 2557.
  4. Morgan CL, Mukherjee J, Jenkins-Jones S, et al. Association between first-line monotherapy with sulphonylurea versus metformin and risk of all-cause mortality and cardiovascular events: a retrospective, observational study. Diabetes Obes Metab. 2014;16(10):957
  5. Tzoulaki I, Molokhia M, Curcin V, et al. Risk of cardiovascular disease and all cause mortality among patients with type 2 diabetes prescribed oral antidiabetes drugs: retrospective cohort study using UK general practice research database. BMJ. 2009;339:b4731.

No comments:

Post a Comment