ความผิดพลาดและผลข้างเคียงที่พบบ่อยในการใช้ยาต้านการอักเสบ NSAIDs
นพ. ภคณัฏฐ์
เดชารัตนชาติ
รศ. สุพีชา วิทยเลิศปัญญา
รศ. สุพีชา วิทยเลิศปัญญา
ในปัจจุบันหนึ่งในยาที่มีการใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุดคือ
NSAIDs
(Non-steroidal anti-inflammatory drugs) โดยยาดังกล่าวสามารถลดการทำงานของสารเคมีที่ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกาย
ทำให้มีฤทธิ์แก้ปวดและลดการอักเสบ ยาดังกล่าวถูกใช้อย่างมากในคลินิกศัลยกรรมกระดูก
รวมถึงสามารถหาซื้อได้อย่างง่ายจากร้านขายยาทั่วไป ตัวอย่างของยาดังกล่าว เช่น ibuprofen, mefenamic
acid, naproxen อย่างไรก็ตามการใช้ยา
NSAIDs
อย่างไม่ถูกต้องนั้นก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อร่างกายได้
หนึ่งในผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดของการใช้ยา
NSAIDs
คือ
อาการปวดแสบท้อง ที่เกิดจากการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร ยา NSAIDs สามารถระงับอาการปวดเมื่อยได้ด้วยการยับยั้งการทำงานของสารเคมีบางชนิดในร่างกายที่ทำให้เกิดการอักเสบ
รวมถึงสารเคมีที่ช่วยป้องกันทางเดินอาหารจากการถูกกัดกร่อนจากน้ำย่อย
ดังนั้นการใช้ยา NSAIDs
ที่เกินขนาด
อาจทำให้เกิดอาการปวดแสบร้อนท้อง
หากผู้ที่ใช้ยามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร
หรือมีแผลในกระเพาะอาหารอยู่แล้ว จะทำให้อาการของผู้ป่วยกำเริบรุนแรงขึ้นได้
ดังนั้นการใช้ยาดังกล่าวควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
โดยแพทย์จะจำกัดปริมาณและระยะเวลาการใช้ยา
รวมถึงอาจมีการให้ยาลดการทำงานของกรดในทางเดินอาหารร่วมด้วยในผู้มีความเสี่ยงสูง
ปัจจุบันมีการพัฒนายาแก้ปวดต้านการอักเสบกลุ่มใหม่
COX-2
inhibitors ซึ่งยับยั้งเฉพาะสารเคมีที่ทำให้เกิดการอับเสบ
โดยไม่ลดสารป้องกันทางเดินอาหาร
ยากลุ่มนี้จึงไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อทางเดินอาหารหรือแผลในทางเดินอาหาร
อย่างไรก็ตามยาในกลุ่มใหม่นี้มีผลข้างเคียงที่อันตรายเช่นเดียวกันหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง
โดยยากลุ่ม COX-2
inhibitors เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
ดังนั้นจึงควรระมัดระวังอย่างยิ่งหากใช้ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ยา
NSAIDs
ยังสามารถทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้
ยา NSAIDs
มีฤทธิ์ลดสารเคมีบางชนิดที่ช่วยควบคุมการทำงานของหลอดเลือดบริเวณไต
ดังนั้นหากใช้ NSAIDs
อย่างไม่เหมาสมในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง
เช่น ผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ ผู้ป่วยที่มีการใช้ยาขับปัสสาวะ
จะทำให้การทำงานของไตผิดปกติ เกิดไตวายเฉียบพลันขึ้นได้ ในปัจจุบันสามารถพบผู้ที่มีความผิดปกติของไตหรือโรคหัวใจแฝงอยู่ได้บ่อย
ดังนั้นจึงควรมีการตรวจหาภาวะต่างๆดังกล่าวก่อนใช้ยา NSAIDs รวมถึงใช้ยาดังกล่าวอย่างระมัดระวัง
ยากลุ่ม
NSAIDs
เป็นกลุ่มใหญ่ที่มียาหลายชนิด
การใช้ยา NSAIDs
แต่ละชนิดนั้นมีขนาดและความถี่ของการใช้ยาที่แตกต่างกัน
ดังนั้นจึงเสี่ยงต่อการเกิดความผิดพลาดในการใช้ยาได้มาก ยกตัวอย่างเช่น ibuprofen เป็นยาที่รับประทานวันละ
3 ครั้งต่อวัน
ในขณะที่ยาชนิดอื่นอาจรับประทาน 2 ครั้งต่อวัน
หากผู้ป่วยที่เคยชินกับการใช้ ibuprofen อาจรับประทานยาชนิดอื่น 3 ครั้งต่อวันเช่นเดียวกัน
จะทำให้เกิดการใช้ยาเกินขนาดขึ้นได้ ดังนั้นการใช้ยา NSAIDs จะต้องอ่านฉลากและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเสมอ
จะพบว่าการใช้ยา
NSAIDs
นั้นมีผลข้างเคียงและอันตราย
หากใช้อย่างไม่ถูกต้องจะก่อให้เกิดผลร้ายต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นระบบทางเดินอาหาร
การทำงานของไต รวมถึงความเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้ในผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตามยากลุ่มนี้มีข้อดี
และข้อบ่งชี้ในภาวะต่างๆมากมาย สามารถลดอาการปวดกล้ามเนื้อ
อาการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือการใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาความเสี่ยงของผู้ป่วย
กำหนดปริมาณและระยะเวลาการใช้ยาที่แน่นอน
รวมถึงมีการตรวจติดตามผลข้างเคียงของยาอย่างใกล้ชิด
ยาทุกชนิดมีประโยชน์มากมาย
แต่ทำให้เกิดโทษได้เช่นเดียวกัน หากใช้อย่างผิดวิธี
การใช้ยาอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้ป่วย
เอกสารอ้างอิง
- Buttgereit F, Burmester GR, Simon LS. Gastrointestinal toxic side effects of nonsteroidal anti-inflammatory drugs and cyclooxygenase-2-specific inhibitors. Am J Med 2001; 110 Suppl 3A:13S.
- Rollason V, Samer CF, Daali Y, Desmeules JA. Prediction by pharmacogenetics of safety and efficacy of non-steroidal anti- inflammatory drugs: a review. Curr Drug Metab 2014; 15:326.
- Brooks PM, Day RO. Nonsteroidal antiinflammatory drugs--differences and similarities. N Engl J Med 1991; 324:1716.
No comments:
Post a Comment