Monday, February 5, 2018


ความผิดพลาดและผลข้างเคียงที่พบบ่อยในการใช้ยาต้านการอักเสบ NSAIDs

นพ. ภคณัฏฐ์ เดชารัตนชาติ
รศ. สุพีชา วิทยเลิศปัญญา

            ในปัจจุบันหนึ่งในยาที่มีการใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุดคือ NSAIDs (Non-steroidal anti-inflammatory drugs) โดยยาดังกล่าวสามารถลดการทำงานของสารเคมีที่ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ทำให้มีฤทธิ์แก้ปวดและลดการอักเสบ ยาดังกล่าวถูกใช้อย่างมากในคลินิกศัลยกรรมกระดูก รวมถึงสามารถหาซื้อได้อย่างง่ายจากร้านขายยาทั่วไป ตัวอย่างของยาดังกล่าว เช่น ibuprofen, mefenamic acid, naproxen อย่างไรก็ตามการใช้ยา NSAIDs อย่างไม่ถูกต้องนั้นก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อร่างกายได้
         หนึ่งในผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดของการใช้ยา NSAIDs คือ อาการปวดแสบท้อง ที่เกิดจากการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร ยา NSAIDs สามารถระงับอาการปวดเมื่อยได้ด้วยการยับยั้งการทำงานของสารเคมีบางชนิดในร่างกายที่ทำให้เกิดการอักเสบ รวมถึงสารเคมีที่ช่วยป้องกันทางเดินอาหารจากการถูกกัดกร่อนจากน้ำย่อย ดังนั้นการใช้ยา NSAIDs ที่เกินขนาด อาจทำให้เกิดอาการปวดแสบร้อนท้อง หากผู้ที่ใช้ยามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือมีแผลในกระเพาะอาหารอยู่แล้ว จะทำให้อาการของผู้ป่วยกำเริบรุนแรงขึ้นได้ ดังนั้นการใช้ยาดังกล่าวควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ โดยแพทย์จะจำกัดปริมาณและระยะเวลาการใช้ยา รวมถึงอาจมีการให้ยาลดการทำงานของกรดในทางเดินอาหารร่วมด้วยในผู้มีความเสี่ยงสูง
         ปัจจุบันมีการพัฒนายาแก้ปวดต้านการอักเสบกลุ่มใหม่ COX-2 inhibitors ซึ่งยับยั้งเฉพาะสารเคมีที่ทำให้เกิดการอับเสบ โดยไม่ลดสารป้องกันทางเดินอาหาร ยากลุ่มนี้จึงไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อทางเดินอาหารหรือแผลในทางเดินอาหาร อย่างไรก็ตามยาในกลุ่มใหม่นี้มีผลข้างเคียงที่อันตรายเช่นเดียวกันหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง โดยยากลุ่ม COX-2 inhibitors เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด  ดังนั้นจึงควรระมัดระวังอย่างยิ่งหากใช้ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ
         นอกจากนี้ยา NSAIDs ยังสามารถทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้ ยา NSAIDs มีฤทธิ์ลดสารเคมีบางชนิดที่ช่วยควบคุมการทำงานของหลอดเลือดบริเวณไต ดังนั้นหากใช้ NSAIDs อย่างไม่เหมาสมในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ ผู้ป่วยที่มีการใช้ยาขับปัสสาวะ จะทำให้การทำงานของไตผิดปกติ เกิดไตวายเฉียบพลันขึ้นได้ ในปัจจุบันสามารถพบผู้ที่มีความผิดปกติของไตหรือโรคหัวใจแฝงอยู่ได้บ่อย ดังนั้นจึงควรมีการตรวจหาภาวะต่างๆดังกล่าวก่อนใช้ยา NSAIDs รวมถึงใช้ยาดังกล่าวอย่างระมัดระวัง
         ยากลุ่ม NSAIDs เป็นกลุ่มใหญ่ที่มียาหลายชนิด การใช้ยา NSAIDs แต่ละชนิดนั้นมีขนาดและความถี่ของการใช้ยาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงเสี่ยงต่อการเกิดความผิดพลาดในการใช้ยาได้มาก ยกตัวอย่างเช่น ibuprofen เป็นยาที่รับประทานวันละ 3 ครั้งต่อวัน ในขณะที่ยาชนิดอื่นอาจรับประทาน 2 ครั้งต่อวัน หากผู้ป่วยที่เคยชินกับการใช้ ibuprofen อาจรับประทานยาชนิดอื่น 3 ครั้งต่อวันเช่นเดียวกัน จะทำให้เกิดการใช้ยาเกินขนาดขึ้นได้ ดังนั้นการใช้ยา NSAIDs จะต้องอ่านฉลากและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเสมอ
         จะพบว่าการใช้ยา NSAIDs นั้นมีผลข้างเคียงและอันตราย หากใช้อย่างไม่ถูกต้องจะก่อให้เกิดผลร้ายต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นระบบทางเดินอาหาร การทำงานของไต รวมถึงความเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้ในผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตามยากลุ่มนี้มีข้อดี และข้อบ่งชี้ในภาวะต่างๆมากมาย สามารถลดอาการปวดกล้ามเนื้อ อาการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือการใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาความเสี่ยงของผู้ป่วย กำหนดปริมาณและระยะเวลาการใช้ยาที่แน่นอน รวมถึงมีการตรวจติดตามผลข้างเคียงของยาอย่างใกล้ชิด
         ยาทุกชนิดมีประโยชน์มากมาย แต่ทำให้เกิดโทษได้เช่นเดียวกัน หากใช้อย่างผิดวิธี การใช้ยาอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้ป่วย

เอกสารอ้างอิง
  • Buttgereit F, Burmester GR, Simon LS. Gastrointestinal toxic side effects of nonsteroidal anti-inflammatory drugs and cyclooxygenase-2-specific inhibitors. Am J Med 2001; 110 Suppl 3A:13S.
  • Rollason V, Samer CF, Daali Y, Desmeules JA. Prediction by pharmacogenetics of safety and efficacy of non-steroidal anti- inflammatory drugs: a review. Curr Drug Metab 2014; 15:326.
  • Brooks PM, Day RO. Nonsteroidal antiinflammatory drugs--differences and similarities. N Engl J Med 1991; 324:1716.


No comments:

Post a Comment