การใช้ยา Isotretinoin มากเกินความจำเป็นในการรักษาสิว
พญ.อมรรัตน์ นามะสนธิ
รศ.ภญ. สุพีชา วิทยเลิศปัญญา
ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รศ.ภญ. สุพีชา วิทยเลิศปัญญา
ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คำแนะนำ
ยา Isotretinoin มีการนำมาใช้ในการรักษาสิวที่รุนแรงชนิดก้อนแข็งและนิ่มขนาดใหญ่ ภายในมีเลือดปนหนอง (Nodulocystic
acne) และมีจำนวนมาก
Isotretinoin
สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายหลายระบบ หนึ่งในผลข้างเคียงที่อันตรายและรุนแรงคือก่อให้เกิดความพิการของทารกในครรภ์
ผลข้างเคียงอื่นๆที่พบได้บ่อย เช่น
ผิวแห้ง ปากแห้ง ตาแห้ง ซึมเศร้า
วิตกกังวล ตับอักเสบ และค่าไขมันในโลหิตเพิ่มสูงขึ้น เป็นต้น
องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาได้รองรับการใช้ยาเพื่อการรักษาตั้งแต่ปีค.ศ.
1982 (the US Food and Drug Administration ,FDA) มีการแนะนำให้ผู้ที่ใช้ยาดังกล่าวเข้ารับการติดตามด้วยโปรแกรม
iPLEDGE® เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ระหว่างการใช้ยา
ในประเทศไทยมีการควบคุมการจ่ายยา Isotretinoin โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
รายละเอียด
Isotretinoin เป็นยาสังเคราะห์ของกลุ่ม
Retinoid รุ่นที่ 1 อยู่ในรูปแบบแคปซูลชนิดรับประทาน คุณสมบัติทางชีวเคมีเหมือนวิตามินเอ มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาสิวชนิดรุนแรง
โดยสามารถลดความมันบนใบหน้า ลดขนาดของรูขุมขนและต่อมไขมัน
ลดการแบ่งตัวของผิวหนังกำพร้าบริเวณรอบรูขุมขนและลดจำนวนแบคทีเรียที่อยู่บนใบหน้า
ขนาดยา
ขนาดต่ำ 0.1-0.4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน
ขนาดสูง 0.5-1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน
ควรเริ่มต้นการรักษาด้วยยาขนาดสูงและให้ยาต่อเนื่องในขนาดต่ำเพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการรักษา
และควรให้มีปริมาณยาสะสมประมาณ 120-150 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งต้องรับประทานยาต่อเนื่องประมาณ 6-8 เดือน ในช่วง 1-3 เดือนแรกที่รับประทานยาระดับของยายังไม่ถึงปริมาณสะสมดังกล่าว อาจพบมีสิวเห่อขึ้นเป็นจำนวนมาก
วิธีการรับประทานยา
รับประทานวันละ 1 ครั้ง การรับประทานพร้อมมื้ออาหารหรือนมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมยาได้ดียิ่งขึ้น
ผลข้างเคียงของยา Isotretinoin
·
ทารกในครรภ์พิการรุนแรงในต่างประเทศแนะนำให้มีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างน้อย
1-2 เดือนก่อนเริ่มและหลังการรักษาด้วยยาดังกล่าว
องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาได้จัดตั้งโปรแกรม
iPLEDGE เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ระหว่างการรักษา
ในผู้ชายไม่พบว่าการรับประทานยา Isotretinoin
ก่อให้เกิดความผิดปกติในการสร้างสเปิร์มแต่แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงยาดังกล่าวในผู้ที่ต้องการจะมีบุตร
·
คลื่นไส้อาเจียน
·
ผิวแห้ง ปากแห้ง ตาแห้ง เยื่อบุตาอักเสบ ผิวคันและลอก ผิวหนังอักเสบ ผมร่วง
·
ซึมเศร้า วิตกกังวล
·
ตับอักเสบ มีความเป็นพิษต่อตับ
·
ค่าไขมันในโลหิตสูง พบว่า
50%–80% ของคนที่ใช้ยาดังกล่าว มีค่าไตรกลีเซอไรด์เพิ่มสูง
และ 30%–50% มีค่าคอเลสเตอรอลเพิ่มสูง
ชื่อการค้าของยา
·
โรแอคคิวเทน
(Roaccutane®)
·
แอคโนทิน
(Acnotin®)
·
โสเตรต
(Sotret®)
·
ไอโสเทน
(Isotane®)
แหล่งอ้างอิง
1. [Internet]. Accessdata.fda.gov. 2018 [cited 30
August 2018]. Available from:
https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2008/018662s059lbl.pdf
2. James J. Leyden E. The Use of Isotretinoin in
the Treatment of Acne Vulgaris: Clinical Considerations and Future Directions
[Internet]. PubMed Central (PMC). 2018 [cited 30 August 2018]. Available from: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3970835/
3. Fitzpatrick T, Goldsmith L, Katz S, Gilchrest B,
Paller A, Leffell D et al. Fitzpatrick's dermatology in general medicine. New
York, N.Y: McGraw Hill Medical; 2012.
No comments:
Post a Comment