Monday, April 29, 2019


โรคติดต่อไม่เรื้อรังกับการซื้อยารับประทานเอง
ในปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD, non-communicable disease) เช่น โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง ฯลฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก สำหรับในประเทศไทยโรคในกลุ่มดังกล่าวเป็นสาเหตุการเสียชีวิตมากถึงร้อยละ 25 ของจำนวนการเสียชีวิตทั้งหมดในหนึ่งปี (WHO) ดังนั้นการรักษาและตรวจติดตามโรคในกลุ่มดังกล่าวจึงมีความจำเป็นและได้รับความสนใจมากทั้งจากภาครัฐ บุคลากรสุขภาพและบุคคลทั่วไป ทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาโรคในกลุ่มดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามปัญหาที่พบมากในปัจจุบัน คือ การขาดการติดตามการรักษา (follow up) อย่างเหมาะสม โดยมีผู้ป่วยจำนวนมาก ซื้อยาจากร้านขายเองรับประทานเอง หลังจากได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แล้ว ทำให้แพทย์ไม่สามารถ ปรับยา ปรับเปลี่ยนการรักษา และเฝ้าระวังผลข้างเคียงของโรคได้ นำมาซึ่งปัญหา การรักษาไม่ได้ตรงตามเป้าหมาย การได้รับผลข้างเคียงจากยา รวมถึงเสียโอกาสที่จะได้รับยาใหม่ๆ

โรคเบาหวาน
ผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้น หลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยแล้ว จะต้องมีการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง ยารักษาเบาหวานนั้น มีหลากหลายกลุ่ม หลากหลายประเภท ซึ่งมีความจำเป็นต้องได้รับการเพิ่มหรือลดยาอย่างต่อเนื่อง ตามระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว การที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์เพียงครั้งเดียวแล้วไปซื้อยารับประทานต่อเองตามร้านขายยา จะนำมาซึ่งปัญหาน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายอย่างมากต่อตัวผู่วยได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะต้องได้รับการตรวจผลกระทบของโรคต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ตรวจตาเพื่อหาความผิดปกติของเส้นเลือดขนาดเล็กในตา ตรวจไตเพื่อหาผลกระทบของโรค รวมถึงเฝ้าระวังผลข้างเคียงของยาบางชนิด ตรวจระบบประสาทเพื่อหาความผิดปกติของระบบรับความรู้สึกส่วนปลายจากโรคเบาหวาน ซึ่งถ้าผู้ป่วยเลือกซื้อยารับประทานเอง และไม่มาตรวจติดตามกับแพทย์ จะพลาดโอกาสในการได้รับการเฝ้าระวังผลกระทบต่างๆดังกล่าวตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งรักษาได้ง่ายกว่าการกลับมาพบแพทย์เมื่อมีอาการรุนแรงแล้ว

โรคความดันโลหิตสูง
ความดันโลหิตของแต่ละยุคคลมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความดันโลหิตของผู้ป่วยสามารถมีความแตกต่างกันอย่างมากได้ในแต่ละวัน หรือแม้แต่ระหว่างวัน ดังนั้นแพทย์จะต้องมีการตรวจติดตามความดันของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด อาจถึงกับให้ผู้ป่วยวัดความดันโลหิตที่บ้านและจดค่าความดันที่วัดได้ระหว่างวันมาให้แพทย์ทำการปรับยา ดังนั้นการที่ผู้ป่วยเลือกซื้อยารับประทานต่อเองจากร้านขายยา จะทำให้แพทย์ไม่สามารถปรับขนาดยาให้เข้ากับระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยได้ นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการคิดค้นยาลดความดันโลหิตใหม่ๆ รวมถึงแนวทางการรักษาใหม่ๆมากมาย การซื้อยารับประทานเองก็จะทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาสได้รับยาใหม่ๆหรือแนวทางการรักษาใหม่ๆดังกล่าว ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการใช้ยาเดิมต่อไป

โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง ถือว่าเป็นโรคในกลุ่มที่อันตราย ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ใกล้ชิดเนื่องการมีโอกาสเป็นซ้ำได้ ต้องได้รับการป้องกัน (secondary prevention) ที่เหมาะสม การที่ผู้ป่วยซื้อยารับประทานเองและไม่ได้พบแพทย์ตามนัดอาจทำให้เสี่ยงต่อการได้รับยาไม่ครบถ้วน ได้รับยาเกินขนาด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยจะขาดการประเมินอาการทางคลินิกจากแพทย์ ทำให้ขาดการดูแลรักษาผลข้างเคียงของโรค และขาดการป้องกันการเป็นซ้ำที่เหมาะสม

โรคไขมันในเลือดสูง
          แม้ระดับไขมันในเลือดจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากนัก แต่การใช้ยานั้นอาจมีผลข้างเคียงต่อตับได้ ดังนั้นผู้ป่วยจะต้องตรวจติดตามค่าการทำงานของตับกับแพทย์หลังจากได้รับยาลดไขมันในเลือดแล้ว รวมถึงจะต้องมีการติดตามระดับไขมันในเลือด เพื่อที่แพทย์จะได้เพิ่มหรือลดขนาดยา เพื่อระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วยอยู่ในระดับที่เหมาะสม รวมถึงแพทย์สามารถให้คำแนะนำเรื่องการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมตามชนิดของไขมันที่แตกต่างกันจากผลการตรวจติดตามของผู้ป่วยได้

ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการรักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คือการตรวจติดตามการรักษากับแพทย์ ที่ไม่สามารถทดแทนได้โดยการซื้อยาเองจากร้านขายยา เนื่องจากจะทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาสการได้รับการปรับยา ตรวจหาผลกระทบอื่นๆของโรค ตรวจหาผลข้างเคียงของยา และการประเมินอาการทางคลินิกโดยแพทย์ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ถือว่าจำเป็นอย่างมากต่อการรักษาโรคต่างๆดังกล่าว อย่างไรก็ตามการเข้าถึงการรักษาโดยแพทย์อาจสร้างความลำบากให้ผู้ป่วย เช่น ระยะเวลาการรอพบแพทย์ที่ยาวนาน ปริมาณผู้ป่วยในระบบสุขภาพของรัฐที่มีปริมาณมาก รวมถึงค่ารักษาพยาบาลที่สูงในระบบเอกชน ดังนั้นทางระบบสาธารณสุขจำเป็นต้องมีการปรับปรุง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถพบแพทย์ได้สะดวกมากขึ้น ลดปัญหาการขาดการติดตามและซื้อยารับประทานเองตามร้านขายยา

References
1.      Pharmacologic Approaches to Glycemic Treatment: Standards of Medical Care in Diabetes—2019. Diabetes Care. 2018;42(Supplement 1):S90-S102.
2.      Microvascular Complications and Foot Care: Standards of Medical Care in Diabetes—2019. Diabetes Care. 2018;42(Supplement 1):S124-S138.
3.      Williams B, Mancia G, Spiering W, Agabiti Rosei E, Azizi M, Burnier M et al. 2018 ESC/ESH Guidelines for the management of arterial hypertension. European Heart Journal. 2018;39(33):3021-3104.
4.      Powers W, Rabinstein A, Ackerson T, Adeoye O, Bambakidis N, Becker K et al. 2018 Guidelines for the Early Management of Patients With Acute Ischemic Stroke: A Guideline for Healthcare Professionals From the American Heart Association/American Stroke Association. Stroke. 2018;49(3).
5.      Ibanez B, James S, Agewall S, Antunes M, Bucciarelli-Ducci C, Bueno H et al. 2017 ESC Guidelines for the management of acute myocardial infarction in patients presenting with ST-segment elevation. European Heart Journal. 2017;39(2):119-177.

No comments:

Post a Comment